บริการลีสซิ่ง (Leasing)

มีกำหนดระยะเวลาเช่าตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป โดยสามารถแบ่งเป็น 3 รูปแบบดังนี้

 - สัญญาเช่าทางเงิน (Financial Lease)
เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้งานเครื่องจักร และมีสิทธิ์ในการเลือกที่จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เมื่อครบสัญญาเช่า
 
- การขายและการเช่ากลับ (Sales and Lease Back)
เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนโดยนำเครื่องจักรที่ตนเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และปลอดภาระมาขายให้แก่ KF&E หลังจากนั้นลูกค้าจึงเช่ากลับไปเพื่อใช้งาน โดยลูกค้ามีสิทธิ์เลือกที่จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เครื่องจักรเมื่อครบสัญญาเช่า

 - สัญญาเช่าดำเนินงาน (Operating Lease)เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้งานเครื่องจักร โดยไม่ต้องการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เมื่อครบสัญญาเช่า

จุดเด่น

1.  สัญญาเช่าทางการเงิน (Financial Lease)

ประโยชน์

• สามารถนำค่าเช่ามาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ทั้งจำนวน ซึ่งมากกว่าหักค่าเสื่อมราคาตามปกติ
• ไม่ต้องลงทุนซื้อทรัพย์สินด้วยเงินสด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสภาพคล่องของกิจการ
• เครื่องจักรสามารถตั้งอยู่บนที่ดิน ที่ติดจำนองกับสถาบันการเงินอื่นได้
• ไม่มีความเสี่ยงด้านต้นทุนจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
• ผู้เช่าสามารถเลือก 1. เช่าต่อ 2. ซื้อกลับ 3. คืนเครื่อง (ตามเงื่อนไขในสัญญา) 
  

2.  สัญญาเช่าดำเนินงาน (Operating Lease) 

ประโยชน์

• ผู้เช่าไม่มีความเสี่ยงด้านต้นทุนจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
• ไม่ต้องลงทุนซื้อทรัพย์สินด้วยเงินสด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสภาพคล่องของกิจการ
• ไม่ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) ของกิจการเปลี่ยนแปลง
• ป้องกันความเสี่ยงจากการล้าสมัยของทรัพย์สิน

รายละเอียด

เงื่อนไขการทำลีสซิ่ง

ระยะเวลาในการเช่า

3-5 ปี

วงเงินที่ให้ลีสซิ่ง
 ร้อยละ 70-100 ของราคาทรัพย์สิน (ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องจักร และการพิจารณาของ KF&E)

หลักทรัพย์ค้ำประกัน

บุคคลค้ำประกัน และจดทะเบียนเครื่องจักรนั้นๆ เป็นหลักประกัน

คุณสมบัติของผู้เช่า
เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจ

อัตราค่าเช่า

คงที่ตลอดสัญญาเช่า

การชำระค่าเช่า
ชำระเป็นรายเดือนในจำนวนเท่ากันทุกเดือน